สถานที่ตั้ง : หมู่ที่ 4 บ้านห้วยลึก ตำบลม่วงยาย อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย 

แก่งก้อนคำ เป็นอีกหนึ่งแก่งที่ตั้งอยู่ระหว่าง จุดชมวิวห้วยเอียน กับ แก่งผาได สุดทางสายน้ำโขงใน เขตตอนเหนือ ของประเทศไทย แก่งก้อนคำนี้ได้พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เคียงคู่กับแก่งผาได ในท้องที่รับผิดชอบของเทศบาลตำบลม่วงยาย ซึ่งบนเส้นทางสายเดียวกันนี้ แก่งก้อนคำจะอยู่ห่างจาก แก่งผาได ประมาณ 2 กิโลเมตร

แก่งก้อนคำ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลม่วงยาย อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย สำหรับตำบลม่วงยาย เป็นตำบลที่อยู่ทางทิศเหนือของอำเภอเวียงแก่น และเป็นตำบลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของที่ทำการอำเภอเวียงแก่น อยู่ห่างจากตัวอำเภอเวียงแก่น ประมาณ 700 เมตร มีหมู่บ้านในเขตการปกครอง ทั้งหมด 9 หมู่บ้าน ประชาชนในตำบลมีหลากหลายชนเผ่า

เมื่อราวปี พ.ศ. 2280 ได้มีราษฎรจำนวนกว่า 50 ครัวเรือน อพยพมาจากจังหวัดในเขตล้านนา เช่น จังหวัดแพร่ จังหวัดน่าน จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำปาง โดยการนำของพระยาเตรียม ได้มาตั้งถิ่นฐานครั้งแรกที่บ้านม่วงและบ้านหลู้ ในปี พ.ศ. 2431 จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งเป็นตำบลม่วงยาย โดยมี “ขุนม่วงยายยศเขต” เป็นกำนันคนแรกของตำบลม่วงยาย

    แก่งก้อนคำ ชื่อนี้สันนิษฐานว่ามาจากคำว่า “ก้อน” ซึ่งหมายถึงก้อนหิน ที่กระจายอยู่ตามลำน้ำโขง ส่วนคำว่า “คำ” หมายถึง ประกายทองคำอันเกิดจากแก่งหินกลางลำน้ำโขงที่สะท้อนแสงที่สาดส่องมาจากดวงอาทิตย์ โดยเฉพาะในช่วงเช้า และช่วงเย็น จะเห็นเป็นก้อนหินที่มีสีเหลืองทองอร่ามตานั้นเอง

 แก่งก้อนคำ สามารถชมความงามของวิวทิวทัศน์แม่น้ำโขง ประกอบกับเกาะแก่งหินที่กระจัดกระจายอยู่กลางลำน้ำเป็นจำนวนมาก มองเห็นฝั่งตรงข้ามเป็น สปป. ลาว บริเวณแก่งก้อนคำเหมาะแก่การกางเต็นท์พักแรมเป็นอย่างยิ่ง จุดนี้มีวิวทิวทัศน์มองได้กว้างไกลกว่าแก่งผาได เนื่องจากมีสภาพเป็นพื้นที่โล่ง มักถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมออกค่ายพักแรมค่ายลูกเสือ ของโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียง

หากมาท่องเที่ยวในช่วงระหว่างปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน จะมีการจัดงานเทศกาลส้มโอ และของดี อำเภอเวียงแก่น เป็นงานเทศกาลประจำปีที่จัดบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเวียงแก่น ตำบลม่วงยาย โดยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนส้มโอเวียงแก่น เพื่อเผยแพร่ผลผลิตส้มโอ ซึ่งอำเภอเวียงแก่น มีพื้นที่การปลูกส้มโอมากที่สุดในประเทศไทยกว่า 4,000 ไร่ มีต้นส้มโอมากถึง 11,000 ต้น เป็นแหล่งตลาดภายในประเทศ และส่งออกไปยังยุโรป และจีน เป็นหลัก

ภายในงานยังมีการจัดประกวดธิดาส้มโอ การประกวดส้มโอทุกสายพันธุ์ ขบวนแห่ การแสดงของศิลปิน และกิจกรรมความบันเทิง